เรื่องเสียว
“ทุกคนถึงจุดต้องตั้งเต็นท์แล้วคืนนี้เราจะนอนกันตรงนี้” พี่อู๋หัวหน้าทีมเดินป่าบอกให้พวกเราเตรียมตัวกางเต็นท์ เรามากันทั้งหมด 6 คน ผู้หญิง 2 คนและผู้ชาย 4 คน ทุกคนเป็นเพื่อนจากมหาวิทยาลัยและคณะเดียวกัน มีพี่อู๋เป็นรุ่นพี่โตสุด เรียนจบไปแล้ว 1 ปี แต่เข้ามาช่วยพวกน้องที่คณะทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง และก็มีพี่กัน พี่จิ๊บ พี่นุ่นอยู่ปี 3 ผมและไอ้กายอยู่ปี 1 ซึ่งไอ้กายเป็นน้องชายของพี่กันมันเคยมาเดินป่ากับพวกพี่ ๆ อยู่หลายครั้ง มีแค่ผมคนเดียวที่มาเดินป่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก พวกเขารักการเดินป่าเป็นชีวิตจิตใจ ปิดเทอมเมื่อไหร่ต้องนัดกันไปกางเต็นท์สักที่นึงในประเทศไทย
“เฮ้ยไอ้เบสถ้ามีจังหวะก็รีบบอกชอบพี่นุ่นเขาเลย แล้วก็อย่าลืมดูแลเขาให้ดี ๆ เขาจะได้ประทับใจ มันหมดยุคการแอบชอบแล้วเว้ย ชอบใครต้องบอกไม่งั้นมึงก็โสดอยู่แบบนี้แหละ” นี่คือสาเหตุที่ผมมาเดินป่าครั้งนี้ด้วยแผนการของไอ้กาย ที่จะให้ผมได้มีโอกาสดูแลพี่นุ่นและมีจังหวะบอกชอบพี่นุ่นได้สักทีหลังจากที่แอบชอบมาหลายเดือน พี่อู๋เรียกให้พวกเราไปช่วยกันทำอาหาร อุปกรณ์ที่พวกพี่เขาเตรียมมาช่วยอำนวยความสะดวกในการตั้งแคมป์ในป่าได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูปหรือพวกเนื้อแห้งรวมทั้งแก๊สกระป๋อง เรียกได้ว่าเป็นมืออาชีพในการเดินป่าเลยแหละ
“ไอเบส มึงมานี่ มาเร็ว แม่งเอ๊ยของดีของเด็ด” ไอ้กายมันลากผมให้มาแอบดูพี่อู๋กับพี่จิ๊บที่เป็นแฟนกันกำลังพลอดรักกันอยู่ไม่ไกลจากเต็นท์ของพวกเรามากนัก เวลานี้ยังไม่ดึกมากยังพอมีแสงสว่าง พี่อู๋กับพี่จิ๊บกำลังยืนอยู่ที่ลำธารกัน 2 คน “ไอ้กายมึงแอบดูเขาทำไมวะถ้าเกิดเขาเห็นเขาจะด่าเอานะเว้ย” ผมพยายามพูดห้ามไอ้กายแต่มันก็ไม่ฟัง “อุ๊ย พี่อู๋อย่า ไม่เอา อึ้มม ซี๊ดด” สิ่งที่ผมเห็นคือพี่อู๋กับพี่จิ๊บกำลังจูบกันอยู่ในลำธาร พี่อู๋เริ่มใช้มือลูบคลำตามเนื้อตัวของพี่จิ๊บ จากนั้นเขาก็ก้มลงใช้ปากไซ้ซอกคอของเธอจนเธอเริ่มครางออกมา “อาาา อืมมม อ๊าา” หลังจากเสียงครางของพี่จิ๊บก็มีเสียงดังโวยวายมาจากทางเต็นท์ของพวกเรา ผมกับไอ้กายจึงรีบวิ่งไปดูทันที
“จิ๊บ เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมมานอนตรงนี้ เกิดอะไรขึ้น” พี่กันกับพี่นุ่นเขย่าตัวพี่จิ๊บและพยุงให้เธอลุกขึ้น เมื่อพี่จิ๊บตื่นมาและนั่งพักสักครู่เธอก็เล่าให้ฟังว่า เธอจัดของในเต็นท์เรียบร้อยแล้วกำลังจะเดินออกจากเต็นท์เพื่อมากินอาหาร แต่เห็นชัยยืนอยู่ทางด้านหลังเต็นท์ไกลออกไปประมาณ 10 เมตร ซึ่งก็คือจุดที่พี่จิ๊บนอนหมดสติอยู่ เขากวักมือเรียกพี่จิ๊บเมื่อเธอเดินตามไปพี่อู๋ก็หายวับไปกับตาแล้วมีกลุ่มควันสีขาวลอยมาปกคลุมรอบ ๆ ตัวพี่จิ๊บและอยู่ดี ๆ พี่จิ๊บก็หมดสติไป “พี่อู๋ล่ะ พี่อู๋อยู่ไหน” พี่จิ๊บถามหาพี่อู๋ทันทีหลังจากตั้งสติได้ ผมกับไอ้กายมองหน้ากันด้วยความตกใจและรู้สึกงง เพราะเมื่อกี้ยังเห็นทั้งสองคนอยู่ที่ลำธารด้วยกันอยู่เลย
“แน่ใจนะว่าเห็นพี่อู๋อยู่ตรงนี้ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่” พี่จิ๊บเอ่ยถามผมระหว่างเดินตามผมมาเพื่อจะหาตัวพี่อู๋ ทุกคนสงสัยและเริ่มหวาดกลัวกับสิ่งที่ผมและไอ้กายเล่า พวกเราเดินดูบริเวณรอบลำธารก็ไม่เจอแม้แต่เงาของพี่อู๋ ผมพี่กันและไอ้กายลงไปช่วยหาในลำธารอยู่นานมากก็ไม่เจอพี่อู๋เลย พวกเราเริ่มรู้สึกใจเสียและกลัวยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้พี่จิ๊บเริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความเป็นห่วงพี่อู๋ “เริ่มมืดแล้วเราต้องกลับไปที่เต็นท์ เราค่อยหาทางคิดอีกทีว่าจะเอายังไงกันต่อ” พี่นุ่นเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับบอกให้พวกเรารีบกลับที่เต็นท์ก่อนที่มันจะมืดไปกว่านี้
“เห้ย นั่นพี่อู๋ยืนอยู่ตรงนั้น” ทุกคนวิ่งกรูกันเข้าไปหาพี่อู๋ด้วยความดีใจ พี่อู๋ยืนอยู่หน้าเต็นท์แถวกองไฟที่พวกเราก่อเอาไว้ พี่จิ๊บวิ่งเข้าไปกอดพี่อู๋ทันทีเธอร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “จิ๊บ พี่นึกว่าจะหาจิ๊บไม่เจอแล้ว ตอนอยู่ที่ลำธารอยู่ดี ๆ จิ๊บก็หมดสติและถูกน้ำในลำธารพัดหายไป พี่ตกใจมาก เดินหาแถวลำธารอยู่สักพักพอไม่เจอ ก็เลยลองเดินกลับมาที่เต็นท์เผื่อจิ๊บจะอยู่ที่นี่แต่พอมาถึงก็ไม่เจอใครอยู่สักคนเดียว พี่กลัวมาก” พี่อู๋เล่าด้วยสีหน้าที่ตกใจปนดีใจที่ได้เจอพี่จิ๊บไปพร้อมกัน
“มึงว่ามันแปลก ๆ ป่ะ ตอนที่กูกับมึงไปแอบดูพี่เขาที่ลำธารอ่ะ น้ำในลำธารมันไม่ได้ไหลแรงขนาดที่จะพัดพาตัวพี่จิ๊บไปได้นะเว้ย มึงว่าพี่อู๋พูดจริงหรือโกหกวะ” ไอ้กายมันลากผมให้ออกมาไกลจากบริเวณที่พวกพี่เขานั่งอยู่เล็กน้อย พร้อมกับกระซิบเรื่องที่มันสงสัยให้ผมฟัง ผมหันไปมองไอ้กายพร้อมกับต่อว่ามันออกไปทันที “มึงพูดบ้าอะไรวะ พี่เขากลับมาก็ดีแล้ว พี่เขาจะโกหกทำไมวะ” ไอ้กายมันเข้ามานั่งชิดและกระซิบข้างหูผม “มึงว่า นี่ใช่พี่อู๋ตัวจริงป่าววะ”