เรื่องเสียว

          กันเล่าเรื่องผีจากนักเดินทางในป่าให้ทุกคนฟังยกเว้นอู๋​ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ นักเดินป่า 5 คนเข้ามากางเต็นท์ในป่าแล้วพลัดตกเขาตายทั้งหมด สาเหตุที่พลัดตกเขาเพราะหนึ่งในสมาชิกของแก๊งนี้ไปเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เธอกวักมือเรียกให้เขาเดินเข้าไปหา เขาเดินเข้าไปตามเสียงเรียกอย่างไม่มีสติ​ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาผมดำยาวสลวย ผิวขาวเนียนละเอียด หน้าตาผุดผ่องสวยงาม เขารู้สึกเหมือนต้องมนต์

     พลันหญิงสาวที่ในตอนแรกสวมชุดคลุมยาวสีขาวก็ถอดชุดนั้นออกเผยให้เห็นเรือนร่างขาวนวลเนียนน่าสัมผัสเป็นอย่างมาก เขาตกตะลึงในความงดงามที่เห็นตรงหน้าเดินเข้ามากอดจูบลูบคลำเธออย่างคลั่งไคล้ หน้าอกของเธอขนาดกำลังพอดีกับสองมือของเขาที่กำลังลูบไล้และเคล้าคลึงไปบนยอดปทุมถันคู่นั้น​ เธอแอ่นอกรับกับจังหวะนิ้วมืออย่างชำนาญ​ “อึ้ม​ อาาา​ ซี๊ดดด” เสียงครางที่บ่งบอกถึงความเสียวได้เริ่มต้นขึ้น

     ชายหนุ่มคนนั้นเริ่มใช้ริมฝีปากและลิ้นจูบลงไปที่ยอดอกของเธออย่างดูดดื่ม​ เขาใช้ลิ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงไล่ลงไปจนถึงร่องเสียวกลางลำตัวของเธอ ปลายลิ้นตวัดเกี่ยวเข้ากับติ่งเสียวของเธออยู่หลายครั้ง จนเธอยกเอวขึ้นและส่ายไปมาตามจังหวะของลิ้น  “อาาา​ อ๊ะ​ อ๊ะ​อ๊ะ​ ซีดด​ อ๊าาา” เสียงครางแห่งความเสียวเริ่มดังขึ้นเรื่อย​ ๆ​ จากนั้นทั้งคู่ก็มอบความสุขให้แก่กันอีกหลายรอบจนเสร็จสมอารมณ์หมาย เพื่อนที่เหลืออีก 4 คนออกตามหาเขาอยู่สักพักก็มาพบว่าเขายืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่​ และกำลังจะเดินก้าวออกไปข้างหน้าในความมืดที่มีเพียงแสงไฟสลัวจากดวงจันทร์

     ทุกคนรีบวิ่งตามมา​ เขาหันมามองและชี้ไปยังเบื้องหน้า “ลองไปดูตรงนั้นสิ” เขาชี้ให้ทุกคนมองดูแสงไฟสีขาวที่ลอยอยู่ไม่ไกลจากพวกเขามากนัก จากนั้นทุกคนก็เดินตามแสงไฟนั้นไป แต่เบื้องหน้าของพวกเขาไม่ใช่ผืนดินมันคือเหวลึก ทั้ง 5 คนก้าวเดินไปตรงปากเหวและทุกคนตกลงไปทันที พวกเขาเสียชีวิตทั้งหมดและกลายเป็นวิญญาณที่ติดอยู่ในป่าแห่งนี้ตลอดกาล ว่ากันว่าพวกเขาเป็นคนที่ชอบเดินป่ากันมากและถ้าหากเขาคิดถึงใครมากเป็นพิเศษก็จะไปชวนให้มาเดินป่าด้วยกัน ถ้าคนนั้นตอบรับก็เท่ากับว่าจะต้องไปอยู่กับพวกเขาตลอดกาลเช่นเดียวกัน

     “ผู้หญิงชุดขาวคนนั้นเป็นใคร แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกันกับพี่อู๋เหรอครับ” เบสถามออกไปด้วยความสงสัย​ “ว่ากันว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นคนที่เคยตายอยู่ในป่านี้เมื่อนานมาแล้ว บางคนก็เล่าว่าผู้หญิงชุดขาวสามารถแปลงกายเป็นใครก็ได้ที่นักเดินป่าตกหลุมรัก เพื่อที่จะมาหลอกและพาตัวไปอยู่ด้วย​ ส่วนไอ้อู๋….” กันยังไม่ทันเล่าจบอู๋ก็เดินออกมาจากเต็นท์ ทุกคนต่างเงียบแบบพร้อมเพรียงกัน

     “พวกมึงกำลังพูดถึงกูอยู่เหรอ กูได้ยินนะได้ยินทุกอย่างที่มึงเล่า แล้วมึงล่ะเชื่อที่ไอ้กันเล่าหรือเปล่า” อู๋หันมาถามเบส​ “เอ่อ​ คือผม” เบสไม่กล้าตอบว่าเขาเชื่อและเริ่มรู้สึกกลัวอู๋ขึ้นมาแล้ว​ “ถ้าพวกมึงอยากรู้เรื่องกูมากนักว่ากูเกี่ยวข้องกับผู้หญิงชุดขาวยังไง กูก็จะเล่าให้ฟัง วันนั้นกูมาเดินป่ากับเพื่อนกลุ่มนึง มีทั้งหมด 5 คน ตกดึกมีเพื่อนสมาชิกของเราหายไป 1 คน พวกเราออกตามหากันอยู่พักใหญ่จนมาเจอมันยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่กำลังจะก้าวเดินออกไปข้างหน้า กูเห็นพอดีก็เลยบอกเพื่อนทุกคนให้รีบวิ่งไปหามัน แล้วมันก็ชี้ให้เราดูดวงไฟสีขาว ในตอนนั้นพวกเราเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้เดินตามเพื่อนคนนั้นไปแล้วเราทุกคนก็ตกเหวตายกันหมด หึหึหึ นี่แหละเรื่องของกูพวกมึงอยากรู้มากเลยใช่ไหม”

     เบสตกตะลึงกับเรื่องที่ได้ฟังจากปากของอู๋ เขาเริ่มเดินถอยหลังไปทีละก้าวและจับมือของนุ่นกับกายเพื่อเตรียมพาพวกเขาออกวิ่ง “มึง​ จะไปไหนวะ” กายถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเบสจับมือของเขาและกำลังจะหันหลังเพื่อวิ่ง “ไม่อยากรู้หรอว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง​ พี่กันเล่าตอนที่พี่เห็นผีผู้หญิงชุดขาวใต้ต้นไม้ใหญ่สิ​ พี่โชคดีสุดเลยนะที่ก่อนตายได้มีความสุขอยู่กับผู้หญิงคนนั้น” สิ่งที่กายพูดยิ่งทำให้เบสตกตะลึงเข้าไปใหญ่

     เบสหันไปมองหน้านุ่นเธอส่งยิ้มมาให้พร้อมกับจับมือเขาไว้แน่น “ไม่ต้องหนีไปไหนหรอก เธอตั้งใจมาเดินป่าเพราะจะบอกชอบพี่ไม่ใช่เหรอ พี่ก็ชอบเธอเหมือนกันนะมาอยู่ด้วยกันตลอดไปเถอะ” เสียงของนุ่นเปลี่ยนเป็นโทนเสียงที่เย็นยะเยือกเข้าไปถึงประสาทสัมผัสของเบส “จำที่กันเล่าไม่ได้เหรอ​ ถ้านักเดินป่าทั้ง 5 คิดถึงใครมากเป็นพิเศษเขาก็จะชวนไปเดินป่าด้วยและคนนั้นจะต้องอยู่กับพวกเขาไปตลอดกาล พี่คิดถึงเบสนะพี่ก็แอบชอบเบสมาตั้งนานแล้วเหมือนกันเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” สิ้นเสียงของนุ่นนักเดินป่าทั้ง 5 คนก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันดั่งก้องกังวานและโหยหวนไปทั้งป่า